รวม

ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้าน

การขยายพันธุ์หญ้าหวาน

หญ้าหวาน

การขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด

  • วิธีการ: การขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดคือการนำเมล็ดหญ้าหวานมาปลูกลงในดินที่เตรียมไว้ โดยทั่วไปแล้ว เมล็ดจะถูกปลูกลงในกระบะหรือแปลงปลูกที่มีดินร่วนและระบายน้ำดี
  • ขั้นตอน:
    1. เตรียมดินร่วนซุยและผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป
    2. หยอดเมล็ดหญ้าหวานลงในแปลงปลูก โดยการปลูกไม่ต้องฝังเมล็ดลงไปลึกเกินไปเพราะเมล็ดหญ้าหวานต้องการแสงเพื่อการงอก
    3. รดน้ำให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่ให้ดินแฉะ
    4. ควรปลูกในที่มีแสงแดดเพียงพอ
  • ข้อดี: วิธีนี้เป็นวิธีที่ธรรมชาติที่สุดและสามารถผลิตต้นกล้าได้ในปริมาณมาก
  • ข้อจำกัด: เมล็ดหญ้าหวานบางครั้งอาจมีอัตราการงอกต่ำ และต้องใช้เวลานานในการเจริญเติบโต

การขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง

  • วิธีการ: การขยายพันธุ์หญ้าหวานโดยการปักชำกิ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันในเชิงการค้า เนื่องจากสามารถได้ต้นที่มีคุณสมบัติเหมือนต้นแม่ได้เร็ว
  • ขั้นตอน:
    1. เลือกกิ่งที่แข็งแรงจากต้นแม่ที่มีสุขภาพดี
    2. ตัดกิ่งประมาณ 4-6 นิ้ว (10-15 เซนติเมตร) จากปลายยอด และทำการตัดใบที่ด้านล่างออก
    3. ปักชำกิ่งลงในกระถางหรือแปลงปลูกที่มีดินร่วนซุยและมีความชื้นพอสมควร
    4. รดน้ำให้ชุ่มและรักษาความชื้นของดิน
    5. ควรให้ต้นกล้าที่เพิ่งปักชำได้รับแสงแดดที่ไม่แรงจนเกินไป
  • ข้อดี: ได้ต้นหญ้าหวานที่เหมือนต้นแม่ในด้านคุณสมบัติทางพันธุกรรมและรสชาติ
  • ข้อจำกัด: อาจต้องใช้เวลาในการรากและการเจริญเติบโตบ้าง

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

  • วิธีการ: การขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้จะใช้หน่อที่งอกจากรากของต้นหญ้าหวาน โดยการแยกหน่อจากต้นแม่แล้วนำไปปลูกใหม่
  • ขั้นตอน:
    1. เมื่อหญ้าหวานมีการเจริญเติบโตเต็มที่และเริ่มมีหน่อเกิดขึ้นรอบ ๆ ต้นแม่ ให้ทำการขุดหน่อออกมาอย่างระมัดระวัง
    2. นำหน่อที่แยกออกมาปลูกลงในแปลงหรือกระถางที่เตรียมดินไว้แล้ว
    3. ควรรดน้ำให้ชุ่มและดูแลจนต้นใหม่เจริญเติบโต
  • ข้อดี: สามารถได้ต้นที่มีระบบรากแข็งแรงและเติบโตได้ดี
  • ข้อจำกัด: ต้องรอให้ต้นแม่มีการเจริญเติบโตเต็มที่ก่อนถึงจะแยกหน่อได้

การขยายพันธุ์โดยการเพาะจากใบ

  • วิธีการ: บางครั้งสามารถขยายพันธุ์จากใบที่แข็งแรงโดยการปักชำใบลงในดินหรือวัสดุเพาะชำ
  • ขั้นตอน:
    1. เลือกใบที่มีสุขภาพดีและไม่มีโรค
    2. ตัดใบและปักลงในวัสดุเพาะชำที่มีความชื้น
    3. รักษาความชื้นและให้อยู่ในที่ที่มีแสงแดดไม่แรง
  • ข้อดี: เป็นวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้กับใบที่มีการเจริญเติบโตที่แข็งแรง
  • ข้อจำกัด: อาจใช้เวลานานในการรากและบางครั้งอาจไม่ได้ผลเท่ากับการใช้กิ่ง